ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง แจกตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกงฟรี!

ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง แจกตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกงฟรี!

ธุรกิจ

ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง (AAHK) ได้จัดแคมเปญ “World of Winners” โดยแจกตั๋วเครื่องบินจำนวน 500,000 ใบ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการขายในต่างประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนฮ่องกง โดยท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ได้เปิดตัวแคมเปญนี้ที่ประเทศไทยเป็นที่แรก! ภายใต้ชื่องาน “World of Winners 500,000 Air Tickets Giveaway” ใจกลางกรุงเทพฯ ณ ลาน Quartier Avenue ชั้น G ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์

โดยแคมเปญนี้จะเริ่มในวันที่ 1 มีนาคม 2566 ในประเทศไทยและตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย โดยจะมีการแจกตั๋วเครื่องบินประมาณ 135,000 ใบ ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับชาวไทยจะแจกถึง 30,000 ใบ โดยผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขายของสายการบินที่เป็นพันธมิตร

หลังจากจัดกิจกรรมในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว แคมเปญนี้จะมีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปยังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ จีนแผ่นดินใหญ่ และตลาดอื่น ๆ โดยสายการบินในฮ่องกง ได้แก่ Cathay Pacific Airways, Hong Kong Express, Hong Kong Airlines และ Greater Bay Airlines ซึ่งกิจกรรมแจกตั๋วเครื่องบินดังกล่าวจะจัดผ่านช่องทางออนไลน์ของสายการบินต่าง ๆ โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขของสายการบินต่าง ๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้เป็นต้นไป

การจัดงานที่กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของฮ่องกง โดยมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย รวมถึงการแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางไปฮ่องกง โดยเซเลบที่ล่าสุดได้บินไปสวีท หวานอย่าง คุณแบงค์-อธิกิตติ์ และ คุณไอซ์-ณพัชรินทร์ ไพบูลย์รัตนกิจ พร้อมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินที่คุณชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น วง ROOFTOP และสองหนุ่มคู่จิ้นสายวาย พร้อม-ราชภัทร และ มาร์ค-ศิวัช นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวของฮ่องกง และบริการใหม่ ๆ ภายในสนามบินนานาชาติฮ่องกง (HKIA) ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับการสนับสนุนจากสายการบินในฮ่องกง การท่องเที่ยวฮ่องกง และสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าของรัฐบาลฮ่องกงในกรุงเทพฯ

นางวิเวียน เชิง (Mrs.Vivian Cheung) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของท่าอากาศยานนาชาติฮ่องกง (AAHK) กล่าวว่า “วันนี้ทางฮ่องกงได้เปิดต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลกแล้ว และเรายินดีต้อนรับทุกท่านจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ภายในสนามบินนานาชาติฮ่องกงในรูปโฉมใหม่ ให้กับผู้โดยสารที่มาเยือนทุกท่าน อาทิ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าซึ่งถูกนำมาใช้ในกระบวนการของการเดินทางทั้งหมด เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางได้อย่างราบรื่นและไม่ยุ่งยาก โดยไม่จำเป็นต้องตรวจเอกสารซ้ำให้เสียเวลาในการรอคิว, สะพานลอยฟ้าซึ่งมีความยาว 200 เมตร และเป็นสะพานเทียบเครื่องบินที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งเปิดใช้งานแล้วเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ของสนามบินที่มาพร้อมทิวทัศน์อันสวยงาม ที่นักเดินทางจะได้เก็บความประทับใจทุกย่างก้าวที่ได้เดินเข้าสู่ภายในสนามบิน นอกจากนี้ในโซนช้อปปิ้งสุดหรูที่อาคารผู้โดยสาร 1 ได้ปรับปรุงใหม่ ซึ่งมีร้านค้าแบรนด์หรูกว่า 40 ร้านค้า พร้อม 3 ร้านดูเพล็กซ์ชื่อดังอย่าง Chanel, Louis Vuitton และ Hermes ซึ่งเปิดให้บริการผู้โดยสารทั่วโลกแล้ว ทั้งนี้เราสนับสนุนให้มีกิจกรรมสำหรับนักเดินทางในประเทศไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เข้าร่วมและรับตั๋วเครื่องบิน เพื่อรับประสบการณ์การเดินทางสู่ฮ่องกงก่อนใคร” นางวิเวียน กล่าว

ตั๋วเครื่องบินที่แจกในแคมเปญ “World of Winners” เป็นตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัดทั้งหมด ผู้เดินทางที่ได้รับตั๋วฟรีนี้ ยังจะได้รับข้อเสนอและสิทธิพิเศษจากพันธมิตรทางธุรกิจของ AAHK มากมายสำหรับที่พักในโรงแรม การช้อปปิ้ง และความบันเทิงต่าง ๆ ในฮ่องกงอีกด้วย

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการในการช่วยเหลือ ในด้านอุตสาหกรรมการบินของฮ่องกงในช่วงที่เกิดโรคระบาดนั้น เมื่อปี 2563 ทางท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ได้ช่วยเหลือสายการบินภายในฮ่องกง โดยสนับสนุนตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า เพื่อวางแผนที่จะนำตั๋วเครื่องบินดังกล่าวมาใช้ในการส่งเสริมและฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังจากโรคระบาดลดลง

สนามบินนานาชาติฮ่องกง (HKIA) ถือเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกพลุกพล่านที่สุดในโลก โดยมีการเชื่อมต่อกับจุดหมายปลายทางกว่า 220 แห่งทั่วโลก มีสายการบินกว่า 120 สาย นอกจากนี้สนามบินนานาชาติฮ่องกงยังมีการเชื่อมต่อกับ GBA (Greater Bay Area) ในจีนแผ่นดินใหญ่อย่างสะดวกสบาย โดยผ่านการขนส่งทางบกและทางทะเลอีกด้วย

อัพเดทข่าวธุรกิจ มาใหม่ แนะนำข่าวเพิ่มเติม : เจาะกลยุทธ์ ‘ไทยเบฟ’ รั้งผู้นำ DJSI เครื่องดื่มโลก 5 ปีซ้อน

เจาะกลยุทธ์ ‘ไทยเบฟ’ รั้งผู้นำ DJSI เครื่องดื่มโลก 5 ปีซ้อน

‘PASSION 2025’ บิ๊กเครื่องดื่มเอเชีย “ไทยเบฟเวอเรจ” มีภารกิจ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต”

ธุรกิจขยายตัว แต่ต้องดูแลสังคม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย การสานต่อความยั่งยืน ทำให้คว้าคะแนนสูงสุดทำเนียบ DJSI 5 ปีซ้อน ตามไปเจาะกลยุทธ์ความสำเร็จ ภาพธุรกิจของ “ไทยเบฟ” คือยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มและอาหารของไทย และสร้างการเติบโต ขยายอาณาจักรสู่เวทีภูมิภาคมากขึ้น

นอกจากมุ่งขับเคลื่อนองค์กร ผลักดันรายได้ และ “กำไร” อีกด้านบริษัทให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กันด้วย ซึ่งเป้าหมาย PASSION 2025 พันธกิจสำคัญคือการ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” เพื่อให้ธุรกิจแกร่งคู่ความยั่งยืนของโลก

การดำเนินธุรกิจพร้อมภารกิจลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โลก ไทยเบฟมุ่งมั่นมาหลายปี และสร้างความสำเร็จจนผ่านด่านจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (The Dow Jones Sustainability Indices – DJSI) ซึ่งคว้าคะแนน “สูงสุด” ในหมวดอุตสาหกรรมเครื่องดื่มระดับโลก โดยปี 2565 ถือเป็นการรั้ง “ผู้นำ” ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน

ธุรกิจหมายถึง

เบื้องหลังความสำเร็จ มีอะไรบ้าง และเป้าหมายระยะสั้นปี 2566 บริษัทมีโปรเจคใดต้องทำ รวมถึงระยะยาว 2573 และ 2583 เป็นอย่างไร “ต้องใจ ธนะชานันท์” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานความยั่งยืน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ทำหน้าที่ฉายภาพแบบเจาะลึก

ย้อนภารกิจความยั่งยืนของไทยเบฟ ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้น เพราะหลายกิจกรรม การผลิตสินค้าและบริการ ตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม และดูแลสังคม ทำมานานหลายสิบปี ตัวอย่างที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วทั้งจากเบียร์ น้ำดื่ม มา “รีไซเคิล” กว่า 40 ปี จนองค์กรต่างประเทศต้องหันมามอง การแจกผ้าห่มมา 23 ปี เป็นต้น

อีกหนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ และไทยเบฟ จริงจังมาก คือ “Sustainability Expo” หรือ SX ซึ่งเป็นงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน และไทยเบฟ ไม่ได้ทำเพียงลำพัง แต่ผนึกพลังพันธมิตรเล็กใหญ่ มาร่วม ไม่ว่าจะเป็น พีทีที โกลบอล เคมิคอล(GC) เอสซีจี ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เป็นต้น ที่ขาดไม่ได้ คือผสานพลังกับ ภาคีเครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย (Thailand Supply Chain Network – TSCN) ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ที่ค้าขายเชื่อมโยงกับบริษัทร่วม 2,000 บริษัท มาพลิกโฉมธุรกิจสู่ความยั่งยืน

ทั้งนี้ งาน SX ปี 2565 จัดขึ้นครั้งที่ 3 ความสำเร็จเพื่อสร้างการตระหนักรู้ด้านความยั่งยืน การปฏิบัติอย่างไรเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมถึงระดับ “ปัจเจกบุคคล” มีผู้เข้าร่วมงานถึง 2.7 แสนราย

ภายในงาน “ไทยเบฟ” พันธมิตร และเครือข่ายซัพพลายเชน ยังนำเสนอข้อมูลความรู้ผสานความสนุก เพื่อสร้างเอ็นเกจเมนต์ กับกลุ่มเป้าหมาย มีสนามเด็กเล่น ฟู้ดเวสต์ สเตชั่น สอนการแยกขยะเปียก-แห้ง การนำเศษอาหารเหลือไปทำปุ๋ย การรีไซเคิลต่างๆ เกิดผลลัพธ์ คือ มีจำนวนขวด PET หลังการบริโภคที่ทิ้งลงถังคัดแยกและเครื่อง RVM ที่นำมาแลกผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก 50,867 ขวด น้ำหนักรวม 763 กิโลกรัม(กก.) จำนวนอาหารเหลือทิ้งเข้าสู่กระบวนการทำเป็นปุ๋ย 1,770 กก. ลดปริมาณคาร์บอน 4.5 tCO2e เป็นต้น

“ไทยเบฟจัดมหกรรมด้านความยั่งยืน หรือ SX เพื่อมุ่งสร้างการรับรู้การพัฒนาอย่างยั่งยืนไปสู่ระดับบุคคล และกระตุ้นให้เกิดการลงมือปฏิบัติจริง”

เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทยเบฟชัดเจนมาก และการติดทำเนียบ DJSI ติดต่อกัน 5 ปี บริษัทมองเป็นการบ้าน ที่บริษัทต้องนำกลับมา “พัฒนาองค์กร” อย่างต่อเนื่องด้วย

“ทุกครั้งที่ตอบคำถาม เราจะกลับมาหาจุดอ่อน เพื่อทบทวนและพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้น”